โคลบี โลเปซ (อังกฤษ: Colby Lopez) เกิดวันที่ 28 พฤษภาคม ค.ศ. 1986 เป็นนักมวยปล้ำอาชีพชาวอเมริกัน ปัจจุบันเซ็นสัญญาสังกัดสมาคม ดับเบิลยูดับเบิลยูอี (WWE) ใช้ชื่อบนสังเวียนว่า เซท โรลลินส์ (อังกฤษ: Seth Rollins) หลังจากเซ็นสัญญาในปี 2010 เขาถูกส่งตัวไปยังค่ายพัฒนาทักษะ ฟลอริดาแชมเปียนชิปเรสต์ลิง (FCW) และได้เป็นแชมป์แกรนด์สแลม FCW คนแรก หลังจาก WWE ได้เปลี่ยนค่าย FCW เป็น NXT เขาก็ได้เป็นแชมป์ NXT คนแรก เขาเปิดตัวในค่ายหลักของ WWE ในปี 2012 พร้อมกับ ดีน แอมโบรส และโรแมน เรนส์ ในนามเดอะชีลด์ เขาเป็นอดีตแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE 1 สมัย และแชมป์ยูเอส 1 สมัย (เป็นคนแรกที่ได้แชมป์ทั้งสองเส้นในเวลาเดียวกัน), แชมป์แทคทีม WWE 1 สมัย (กับเรนส์) เป็นผู้ชนะมันนีย์อินเดอะแบงก์ 2014 และได้รางวัลสแลมมีอะวอร์ด ซุปเปอร์สตาร์แห่งปี 2015
ก่อนจะเซ็นสัญญากับ WWE เขาเคยเป็นที่รู้จักกันดีในสมาคม ริงออฟออเนอร์ ใช้ชื่อว่า ไทเลอร์ แบล็ก (อังกฤษ: Tyler Black) เป็นอดีตแชมป์โลก ROH 1 สมัย และแชมป์โลกแทกทีม ROH 2 สมัย (กับ จิมมี เจคอบส์) และเป็นผู้ชนะในทัวร์นาเมนต์ 2009 Survival of the Fittest นอกจากนี้เขายังปล้ำกับสมาคมอิสระต่างๆรวมทั้ง Full Impact Pro (FIP) เป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวท FIP 1 สมัย, และสมาคม Pro Wrestling Guerrilla (PWG) เป็นแชมป์โลกแทกทีม PWG (กับเจคอบส์) โรลลินส์เป็นหนึ่งในสามคนที่ได้แชมป์โลกใน WWE และ ROH เช่นเดียวกับ ซีเอ็ม พังก์ และแดเนียล ไบรอัน ในประสบการณ์การทำงาน สตีฟ "สติง" บอร์เดน บอกว่าโรลลินส์เป็นนักมวยปล้ำที่มีพรสวรรค์ที่สุดที่เขาได้เคยดูหรือทำงานร่วมกัน
โคลบี โรเปซ ใช้ชื่อว่า กิกซ์ เปิดตัวในปี 2003 สำหรับ Scott County Wrestling (SCW) นอกจากนี้เขายังทำงานให้กับ Ian Rotten's IWA Mid-South และได้เข้าร่วม Ted Petty Invitational Tournament เอาชนะ Sal Thomaselli ก่อนที่จะถูกกำจัดโดย แมต ไซดอล ในรอบคัดเลือก ในแฮมมอนด์ อินดีแอนา เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2005 ต่อมาเขาได้แชมป์เฮฟวี่เวท SCW และพ่นสีเข็มขัดแชมป์สีดำเพื่อทำเครื่องหมาย "The Black Era" (ยุคสีดำ) ใน SCW
เขาได้เข้าร่วม NWA Midwest ชนะแชมป์แทกทีมโปรโมชั่นกับ Marek Brave ทั้งสองได้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันชิงแชมป์กับ Ryan Boz และ Danny Daniels, Brett Wayne และ Hype Gotti, และ Jayson Reign และ Marco Cordova หลายต่อหลายครั้งในช่วงต้นปี 2006 นอกจากนี้เขายังต้องเจอกับ Eric Priest และ เอ.เจ. สไตลส์ ในการแข่งขันเดี่ยว
เขาปรากฏตัวสั้นๆ ในสมาคม โทเทิลนอนสต็อปแอคเชินเรสต์ลิง และจับคู่ทีมกับ Jeff Luxon โดยแพ้ให้กับ The Latin American Xchange (Homicide และ Hernandez) ในอิมแพ็ก ในเดือนตุลาคม 2006
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2007 ในขณะที่สมาคม Full Impact Pro (FIP) ในการแข่งขันชิงแชมป์แทกทีม Briscoes ในเมลเบิร์น, ฟลอริดา คู่แทกทีม Marek Brave ได้รับบาดเจ็บที่หลังทำให้เขาต้องพักเป็นเวลาหลายสัปดาห์ก่อนที่ในท้ายที่สุดทำให้เขาต้องออกจากตำแหน่ง Brave กลับมาแข่งขันในปี 2012 ในช่วงเวลานี้แบล็กได้เริ่มอาชีพเดี่ยวการแข่งขันใน Pro Wrestling Guerrilla (PWG) โดยเขาชนะโจอี ไรอันเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน และอดีตพี่เลี้ยงแดนนี แดเนียลส์ ใน the supercard Point ของ No Return '07 ในวันที่ 16 มิถุนายน
ใน PWG's Life During Wartime เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2008 แบล็กได้ร่วมทีมกับ จิมมี จาคอบส์ ที่จะได้ชิงแชมป์โลกแทกทีม PWG โดยชนะ Roderick Strong และ เอล เจเนริโก ซึ่งทดแทนแจ็ก อีแวนส์ ใน FIP's event เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2008 แบล็กชนะ Go Shiozaki และได้แชมป์โลกเฮฟวี่เวท FIP ใน FIP's event เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2009 เดวีย์ ริชาดส์ ได้รับรางวัลการแข่งขันชิงแชมป์เฮฟวี่เวท FIP โดยถูกปรับเมื่อแบล็กไม่สามารถแข่งขันได้
ใน ริงออฟออเนอร์ (ROH) เดือนกันยายน 2007 แบล็กได้เปิดตัวร่วมกับจิมมี จาคอบส์ และเนโคร บัตเชอร์ ในเดือนกันยายนปี 2009 แบล็กได้รับการผ่าตัดบนแผ่นดิสก์ปูดในลำคอของเขา เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมแบล็กได้ชนะเคนนี คิงในการแข่งขันรอบแรกและจากนั้น คลอดิโอ แคสแทจโนลี, โคลต์ คาบานา, Delirious, คริส ฮีโร และ Roderick Strong ในรอบชิงชนะเลิศใน 2009 Survival of the Fittest tournament ในวันที่ 19 ธันวาคม ใน Final Battle 2009 แบล็กได้ปล้ำชิงแชมป์โลก ROH กับ ออสติน แอรีย์ ในการปล้ำ 60 นาที ซึ่งผลออกมาเป็นเสมอ ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2010 เขาได้คว้าแชมป์โลก ROH โดยเอาชนะแอรีย์ ก่อนจะเสียแชมป์ให้กับ Roderick Strong ในแมตช์ไม่มีกฏกติกา และเป็นการปรากฏตัวครั้งสุดท้ายของเขาก่อนจะเซ็นสัญญากับ WWE
วันที่ 8 สิงหาคม 2010 เขาได้เซ็นสัญญากับสมาคม WWE และได้รับมอบหมายไปยังศูนย์พัฒนาทักษะของพวกเขา ฟลอริดาแชมเปียนชิปเรสต์ลิง (FCW) ในเดือนกันยายน เขาได้เปิดตัวขึ้นปล้ำครั้งแรกใน FCW วันที่ 30 กันยายน ในนาม เซท โรลลินส์ โดยแพ้ให้กับ ไมเคิล แมคกิลลิคัตตี และเขาได้คว้าแชมป์ฟลอริดาเฮฟวี่เวท FCW สมัยแรกจาก ลีโอ ครูเกอร์ ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2012 ในปลายปี 2012 WWE ได้รวม FCW กับ NXT ให้กลายเป็น เอ็นเอ็กซ์ที เรสต์ลิง โรลลินส์เปิดตัวออกโทรทัศน์ NXT ในตอนที่สองของ NXT รูปแบบใหม่ บันทึกเทปที่มหาวิทยาลัย Full Sail University โดยเขาชนะจิโร โรลลินส์ได้เข้าร่วมทัวร์นาเมนต์ Gold Rush เพื่อหาเจ้าของตำแหน่งแชมป์ NXT โดยเขาเอาชนะ จินเดอร์ มาฮาล ไปได้ในรอบสุดท้าย ทำให้เขาเป็นแชมป์ NXT คนแรก
โรลลินส์ได้เปิดตัวในค่ายหลักเป็นครั้งแรกในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2012 ในนามกลุ่มเดอะชีลด์ โดยมี โรลลินส์, ดีน แอมโบรส และโรแมน เรนส์ ในศึกเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2012) ในแมตช์การปล้ำคู่เอกระหว่าง จอห์น ซีนา, ซีเอ็ม พังก์ และไรแบ็ค ในการชิงแชมป์ WWE พวกเขาได้ใส่ท่า Triple Powerbomb กับไรแบ็คบนโต๊ะผู้บรรยาย ทำให้พังก์จับกดซีนาจนชนะและป้องกันแชมป์ WWE เอาไว้ได้สำเร็จ ในศึกทีแอลซี: เทเบิล แลดเดอร์ แอนด์ แชร์ (2012) เดอะชีลด์ได้เจอกับไรแบ็ค และทีมเฮลโน (เคน และแดเนียล ไบรอัน) เป็นแมตช์แรก ในแมตช์การปล้ำแทกทีมแบบโต๊ะ บันได และเก้าอี้ โดยเอาชนะด้วยการจับกดหรือทำให้ยอมแพ้ สุดท้ายเดอะชีลด์เป็นฝ่ายชนะไปในแมตช์แรก หลังจากศึกทีแอลซี ในรอว์ตอนแรกของปี (7 มกราคม 2013) เดอะชีลด์ได้ออกมารุมทำร้ายไรแบ็ค ในระหว่างการปล้ำโต๊ะ บันได และเก้าอี้ ชิงแชมป์ WWE กับพังก์ จนพังก์สามารถป้องกันแชมป์ไปได้ ใน NXT (9 มกราคม 2013) โรลลินส์ได้เสียแชมป์ NXT ให้กับบิ๊ก อี แลงสตัน ในแมตช์ไม่มีกฎกติกา ระหว่างแมตช์สมาชิกเดอะชีลด์ ได้ขึ้นไปรุมบิ๊ก อี จนเหล่านักมวยปล้ำ NXT ทั้งหมดออกมาช่วย ในศึก รอยัลรัมเบิล (2013) เดอะชีลด์ได้ปรากฏตัวโดยรุมทำร้าย เดอะ ร็อก ระหว่างแมทช์การปล้ำชิงแชมป์ WWE ซึ่งในตอนแรกพังก์กดนับ 3 ชนะ แต่ วินซ์ แม็กแมน ออกมาบอกให้เริ่มใหม่เลยทำให้ เดอะ ร็อก คว้าแชมป์ WWE ไป
ในรอว์ (28 มกราคม 2013) จอห์น ซีนาได้เจอกับ โคดี โรดส์ สุดท้ายซีนาก็เอาชนะไปได้ หลังแมตช์ ซีนาประกาศเลือกท้าชิงแชมป์ WWE ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29 แต่เดอะชีลด์ ก็มารุมลอบทำร้ายซีนา แม้ว่า เชมัส กับไรแบ็ค จะออกมาช่วยแต่ก็โดนรุมทำร้าย สุดท้ายเดอะชีลด์เล่นงานซีนา ด้วยท่า Triple Powerbomb ในรอว์ (4 กุมภาพันธ์ 2013) เดอะชีลด์โดนซีนา, ไรแบ็ค และเชมัส ล้อมเอาไว้ ทำให้เดอะชีลด์ วิ่งหนีไปทางหลังเวทีแต่ แรนดี ออร์ตัน นำทัพนักมวยปล้ำออกมาขวางเอาไว้ เดอะชีลด์ เลยโดน ซีนา, ไรแบ็ค และเชมัส อัดจนน่วม ก่อนที่จะหนีไปทางอัฒจรรย์ ในรอว์ (11 กุมภาพันธ์ 2013) เดอะชีลด์ออกมาท้าทายกลุ่มของซีนา ว่าถ้าอยากมีเรื่องก็ออกมาเจอกันเดี๋ยวนี้ได้เลย ปรากฏว่าไฟในสนามดับ แล้วกลุ่มของซีนาก็ออกมาไล่อัดเดอะชีลด์ จนหนีกระเจิง ในศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2013) เดอะชีลด์ ได้เจอกับ ซีนา, เชมัส และไรแบ็ค ในการปล้ำแทคทีม 6 คน สุดท้ายเดอะชีลด์ก็เอาชนะไป ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29 เดอะชีลด์ ได้เจอกับ เชมัส, แรนดี ออร์ตัน และบิ๊กโชว์ และเป็นเดอะชีลด์ที่เอาชนะไปได้
ในรอว์ (8 เมษายน 2013) ดิอันเดอร์เทเกอร์ ออกมาที่เวที และขออุทิศชัยชนะให้กับ พอล แบเรอร์ หลังจากที่ชนะ ซีเอ็ม พังก์ ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29 เดอะชีลด์ออกมารุมล้อมอันเดอร์เทเกอร์ แต่เคน กับแดเนียล ไบรอัน ออกมาช่วยอันเดอร์เทเกอร์ ทำให้เดอะชีลด์หนีไป ในรอว์ (22 เมษายน 2013) เดอะชีลด์ได้เจอกับ อันเดอร์เทเกอร์, เคน และ ไบรอัน สุดท้ายเดอะชีลด์ก็เอาชนะไป ในสแมคดาวน์ (26 เมษายน 2013) แอมโบรสได้เจอกับอันเดอร์เทเกอร์ แต่แอมโบรสก็แพ้ไป หลังแมตช์เดอะชีลด์ได้ลอบทำร้ายอันเดอร์เทเกอร์จนต้องหายไป ในศึก เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2013) แอมโบรสได้เอาชนะ โคฟี คิงส์ตัน และคว้าแชมป์ยูเอส เป็นสมัยแรกได้ คืนเดียวกัน โรลลินส์ กับเรนส์ ได้เอาชนะทีมเฮลโน และคว้าแชมป์แทคทีม WWE ได้สำเร็จ ทำให้เดอะชีลด์มีแชมป์ครบทั้งทีม ในเดือนสิงหาคม 2013 เดอะชีลด์ได้เข้าร่วมกลุ่ม ดิออธอริตี ของประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ทริปเปิล เอช ในศึก แบทเทิลกราวด์ โรลลินส์กับเรนส์ได้เจอกับ โคดี โรดส์ และโกลดัสต์ ถ้าหาก โคดีและโกลดัสต์ชนะ พวกเขาจะได้กลับมาใน WWE แต่ถ้า เดอะชีลด์ชนะ ดัสตี้จะไม่ได้เป็นครูฝึกในสมาคม NXT อีกต่อไป และครอบครัวโรดส์จะถูกแบนด์โดย WWE สุดท้ายโรลลินส์กับเรนส์ก็แพ้ไป ในรอว์ (14 ตุลาคม 2013) โรลลินส์กับเรนส์ได้เสียแชมป์แทคทีม WWE ให้กับโคดี และโกลดัสต์ ในแมตช์การปล้ำไม่มีกฎกติกา โดยได้รับการช่วยเหลือจากบิ๊กโชว์
ในรอว์ (27 มกราคม 2014) เดอะชีลด์ได้ปล้ำแทคทีม 6 คนกับ แดเนียล ไบรอัน, เชมัส และจอห์น ซีนา เพื่อเข้าไปปล้ำในศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2014) ในการชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE แต่ก็ไม่ชนะ เพราะ เดอะไวแอ็ตต์แฟมิลี ได้เข้ามาก่อกวนการปล้ำ ทำให้เดอะชีลด์แพ้ฟาวล์ไป เดอะชีลด์จึงท้าเจอกับไวแอ็ตต์แฟมิลี ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ แต่เดอะชีลด์ก็แพ้ไป ในปลายเดือนมีนาคม 2014 เดอะชีลด์ได้เป็นฝ่ายธรรมะ และได้มีแมตช์กับเคน และเดอะนิวเอจเอาต์ลอวส์ ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 30 โดยเดอะชีลด์เอาชนะไปได้ 1 วันหลังจากจบรายการ เรสเซิลเมเนีย ในรอว์ (7 เมษายน 2014) แชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE แดเนียล ไบรอัน ได้มาฉลองกับผู้ชม ก่อนจะถูกขัดจังหวะโดย ทริปเปิล เอช และเขาได้ขอชิงแชมป์ในคืนนั้น โดยก่อนเริ่มแมตช์นั้น สเตฟานี แม็กแมน ได้สั่งให้ เคน, บาทิสตา และออร์ตัน ทำร้ายไบรอัน เป็นการสร้างจุดอ่อน และทำให้ ทริปเปิล เอช มีโอกาสในการชนะมากขึ้น จน เดอะชีลด์ ได้ออกมาบนเวที และจัดการกับพวกกลุ่มของ ทริปเปิล เอช และได้ช่วยไบรอัน จากการกลั่นแกล้งจากกลุ่ม ทริปเปิล เอช ในรอว์ (14 เมษายน 2014) เดอะชิลด์ ต้องปล้ำในแมตช์แฮนดิแคป 11 รุม 3 แต่กรรมการต้องยุติแมตช์ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายอัดกันไม่หยุด ก่อนที่ทริปเปิล เอช, ออร์ตัน และ บาทิสตา จะออกมาในนามของกลุ่ม เอฟโวลูชั่น เพื่อจัดการกลุ่มเดอะชิลด์โดยเฉพาะ ก่อนที่จะประกาศแมตช์การปล้ำแทคทีมอย่างเป็นทางการ ในสแมคดาวน์ (18 เมษายน 2014) ระหว่าง เดอะชีลด์ เจอกับเอฟโวลูชั่น ในศึก เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2014) สุดท้ายเดอะชีลด์เอาชนะไปได้สำเร็จ ในศึก เพย์แบ็ค (2014) เดอะชีลด์ได้รีแมตช์กับเอฟโวลูชั่นอีกครั้ง ในการปล้ำแทคทีม 6 คน ไม่มีกฎกติกา แบบคัดออก สุดท้ายเดอะชีลด์ เป็นฝ่ายชนะรวด 3-0
ในรอว์ (2 มิถุนายน 2014) บาทิสตาได้ออกจากเอฟโวลูชั่น คืนเดียวกัน โรแมน เรนส์ มีคิวเจอกับ แรนดี ออร์ตัน โดยออร์ตันออกมากับ ทริปเปิล เอช โดยทริปเปิล เอช ถือค้อนมาด้วย ทำให้เดอะชีลด์ พากันไปหยิบเก้าอี้มาเตรียมไว้ ทริปเปิล เอช บอกว่า บาทิสตา มันหนีไปแล้ว แต่เราก็มีแผน 2 เสมอ... ว่าแล้ว โรลลินส์ ก็เอาเก้าอี้ฟาดใส่เรนส์ จากด้านหลัง จากนั้นก็ฟาดแอมโบรส อีกคน โรลลินส์เอาเก้าอี้ไปยื่นให้ออร์ตัน เพื่อเอาไปฟาดเรนส์ กับแอมโบรส ต่ออีก จากนั้นก็ RKO เรนส์ ลงบนเก้าอี้ ปิดท้ายรายการโดยมี โรลลินส์ ยืนอยู่กับออร์ตัน และทริปเปิล เอช เป็นอันว่า โรลลินส์ได้แยกทีมกับ เดอะชีลด์ ไปอยู่กลุ่มออธอริตี แล้ว ในเมนอีเวนต์ (17 มิถุนายน 2014) โรลลินส์ออกมาบอกว่าศึก มันนีย์อินเดอะแบงก์ จะมีแมตช์ไต่บันได 2 แมตช์ด้วยกัน ซึ่งจะเป็นการชิงกระเป๋า มันนีอินเดอะแบงก์แลดเดอร์แมตช์ เพื่อชิงสัญญาในการชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE แอมโบรส ออกมาเล่นงานโรลลินส์ เคนออกมาช่วยโรลลินส์ แต่แอมโบรส ก็จัดการทั้งคู่และหนีเอาตัวรอดไปได้ ในศึก มันนีย์อินเดอะแบงก์ (2014) โรลลินส์สามารถเอาชนะนักมวยปล้ำทั้ง 5 คน และคว้ากระเป๋ามันนีย์อินเดอะแบงก์ได้สำเร็จ ในศึก แบทเทิลกราวด์ (2014) โรลลินส์ ได้มีแมตช์กับ แอมโบรส โดยโรลลินส์ ได้ขอให้กรรมการประกาศให้เขาเป็นผู้ชนะ แต่ระหว่างกำลังเดินกลับก็โดนแอมโบรส เข้ามาไล่ต่อยจนต้องหนีกระเจิงไปทางอัฒจรรย์ ก่อนที่ รปภ.และกรรมการจะมาช่วยกันห้าม ที่ลานจอดรถ ระหว่างที่โรลลินส์ จะเดินทางกลับบ้าน แอมโบรสก็โผล่ออกมาจากกระโปรงท้ายรถพร้อมกับเหล็กแป๊บ ไล่อัดโรลลินส์ ก่อนจะรีบขึ้นรถขับหนีออกไปได้
ในรอว์ (4 สิงหาคม 2014) ได้มีการจัดแมตช์แบบ Beat the Clock ถ้า ดีน แอมโบรส ชนะได้ก็จะเป็นการเซ็ตเวลาให้โรลลินส์ ต้องทำลายสถิติในแมตช์ของเขา ผู้ชนะจะได้สิทธิ์เลือกกติกาในแมตช์ที่จะเจอกันในศึก ซัมเมอร์สแลม (2014) โดยแอมโบรส เอาชนะ อัลเบร์โต เดล รีโอ ไปได้ในเวลา 15:42 และโรลลินส์ จะต้องทำลายสถิติของแอมโบรส โดยเจอกับ ฮีท สเลเตอร์ ระหว่างแมตช์ แอมโบรสออกมาก่อกวนที่ข้างเวทีโดยเอากระเป๋ามันนีย์อินเดอะแบงก์ ของโรลลินส์ไป จากนั้นก็ฉีกสัญญาในกระเป๋าทิ้งก่อนจะเอาโค้กและป๊อปคอร์นมาเทใส่กระเป๋า โรลลินส์มัวแต่ไปสนใจแอมโบรส เลยโดนสเลเตอร์ รวบกดนับ 3 ไป ทำให้แอมโบรส ได้สิทธิ์เลือกกติกาพิเศษ โดยในสแมคดาวน์ (8 สิงหาคม 2014) แอมโบรสได้ประกาศเลือกแมตช์ ลัมเบอร์ แจ็ก โดยมีนักมวยปล้ำอยู่รอบเวที สุดท้ายโรลลินส์เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้สำเร็จ ในรอว์คืนต่อมา (18 สิงหาคม 2014) ทั้งคู่ได้รีแมตช์กันอีกครั้ง ในรูปแบบการปล้ำจับกดที่ไหนก็ได้ โดยโรลลินส์ได้เล่นงานแอโบรส จนต้องห่างหายจากการปล้ำ ในศึก ไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2014) ดีน แอมโบรส ได้กลับมาล้างแค้นโรลลินส์ คืนเดียวกัน หลังจากแมตช์ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE ระหว่าง บร็อก เลสเนอร์ (เจ้าของตำแหน่ง) กับ จอห์น ซีนา นั้น โรลลินส์ได้ขอใช้สิทธิ์กระเป๋ามันนีย์อินเดอะแบงก์ ชิงแชมป์กับ เลสเนอร์ ทันที แต่กรรมการยังไม่ทันจะเริ่มแมตช์ ซีนาก็มาไล่อัดโรลลินส์ จนต้องหนีไป ในศึก เฮลอินเอเซล (2014) โรลลินส์ได้มีแมตช์เจอกับแอมโบรส ในแมตช์การปล้ำในกรงเหล็กเฮลอินเอเซล สุดท้ายโรลลินส์เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ จากการช่วยเหลือของ เบรย์ ไวแอ็ตต์
ออธอริตีได้ให้ J&J Security (เจมี โนเบิล และโจอี เมอร์คิวรี) เป็นรปภ.ประจำตัวให้โรลลินส์ ในศึก เซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2014) โรลลินส์ได้นำทีมออธอริตีแพ้ให้กับทีมซีนา จากการช่วยเหลือของสติง ทำให้ออธอริตีต้องสลายกลุ่มและหมดอำนาจลง ในรอว์ส่งท้ายปี (29 ธันวาคม 2014) เอดจ์ และคริสเตียน ออกมาจัดรายการ Cutting Edge Peep Show เป็นครั้งแรก โดยแขกรับเชิญคือโรลลินส์ มาพร้อมกับ J&J Security โรลลินส์บอกว่าเขาจะไม่ฉลองปีใหม่อย่างเดียวดายเพราะต้องเชิญเพื่อนซี้ของเขามาด้วยคือ บิ๊กโชว์ และโรลลินส์ ก็บอกว่าเขาต้องเชิญอีกคนมาให้ได้คือ จอห์น ซีนา แต่ซีนาไม่ยอมออกมา ทำให้โรลลินส์ เรียกซีนาออกมาอีกครั้งเพราะเขาอยากจะให้ซีนา ช่วยทำอะไรให้สักหน่อย และโรลลินส์ก็เอากระเป๋า MITB ฟาดใส่คริสเตียน จนกลิ้งตกเวทีไป ทำให้เอดจ์โมโหเข้ามาผลักโรลลินส์ แต่ก็โดน บิ๊กโชว์, โนเบิล และเมอร์คิวรี มารุมล้อม บิ๊กโชว์บีบคอเอดจ์แล้วจับกดลงกับกระเป๋าให้โรลลินส์เหยียบหัว โรลลินส์เรียกซีนาให้ออกมาไม่อย่างนั้นเขาจะหักคอเอดจ์ ซีนาวิ่งออกมาแต่โรลลินส์สั่งให้ซีนาหยุด และก็บอกให้ซีนาคืนอำนาจให้กับออธอริตี ไม่อย่างงั้นเขาจะเหยียบหัวเอดจ์จนพิการตลอดชีวิต ซีนาจำเป็นต้องยอมคืนอำนาจให้ออธอริตี แต่โรลลินส์บอกว่าเขาจะฆ่าเอดจ์อยู่ดี ว่าแล้วก็จะโดดเหยียบหัว แต่ซีนามาช่วยไว้ทัน สุดท้ายซีนาก็โดนบิ๊กโชว์ปล่อยหมัดน็อคใส่ และโรลลินส์ก็ตามมาโดดเหยียบหัวซ้ำ โรลลินส์และพรรคพวกเดินกลับไปอย่างมีความสุข โดยมี พอล เฮย์แมน และบร็อก เลสเนอร์ ออกมาจับมือกับโรลลินส์ด้วย และทริปเปิล เอช กับสเตฟานี ก็ออกมาจิบไวน์เฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่ากันอย่างมีความสุข ในรอว์สัปดาห์ต่อมา (5 มกราคม 2015) ออธอริตีได้ประกาศให้โรลลินส์ เข้าร่วมแมตช์ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE กับซีนา และเลสเนอร์ เป็นแมตช์สามเส้าในศึก รอยัลรัมเบิล (2015) สุดท้ายเลสเนอร์เป็นฝ่ายป้องกันแชมป์เอาไว้ได้
ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 31 โรลลินส์ได้มีแมตช์เจอกับ แรนดี ออร์ตัน โดยโรลลินส์เป็นฝ่ายแพ้ คืนเดียวกันโรลลินส์ได้ใช้สิทธิ์มันนีย์อินเดอะแบงก์ และคว้าแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE เป็นสมัยแรกได้ โดยเอาชนะ บร็อก เลสเนอร์ และโรแมน เรนส์ ในแมตช์สามเส้า ทำให้เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ใช้สิทธิ์มันนีย์อินเดอะแบงก์ในเรสเซิลเมเนีย และก็ยังเป็นแชมป์คนแรกที่อายุน้อยกว่าอายุของเรสเซิลเมเนีย ในศึก เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2015) โรลลินส์ต้องป้องกันแชมป์โลกเป็นครั้งแรกกับออร์ตัน ในการปล้ำในกรงเหล็ก พร้อมกับแบนท่า RKO ของออร์ตัน และมีเคน เป็นคนเฝ้าประตูกรง สุดท้ายโรลลินส์ สามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ โดยใช้ท่า RKO ของออร์ตัน ในศึก เพย์แบ็ก (2015) โรลลินส์ต้องป้องกันแชมป์ในแมตช์สี่เส้ากับ แรนดี ออร์ตัน, โรแมน เรนส์ และดีน แอมโบรส สุดท้ายโรลลินส์ก็สามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ โดยใช้ท่า Pedigree (ท่าไม้ตายของ ทริปเปิล เอช) เล่นงานใส่ออร์ตัน ในศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2015) โรลลินส์ต้องป้องกันแชมป์กับ ดีน แอมโบรส ผลปรากฏว่าโรลลินส์ถูกปรับแพ้ฟาล์วแต่ไม่เสียแชมป์ หลังแมตช์แอมโบรสได้ขโมยเข็มขัดแชมป์ของโรลลินส์ ในศึก มันนีย์อินเดอะแบงก์ (2015) โรลลินส์ และแอมโบรส ได้รีแมตช์ชิงแชมป์กันอีกครั้ง ในแมตช์ไต่บันได โดยโรลลินส์ก็สามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ โดยปราศจากการช่วยเหลือของออธอริตี ในศึก แบทเทิลกราวด์ (2015) โรลลินส์ต้องป้องกันแชมป์กับ บร็อก เลสเนอร์ ระหว่างแมตช์ อันเดอร์เทเกอร์โผล่มาเล่นงานเลสเนอร์ ทำให้โรลลินส์แพ้ฟาล์วแต่ไม่เสียแชมป์
ในรอว์ (20 กรกฎาคม 2015) เจ้าของแชมป์ยูเอสจอห์น ซีนา ได้ขอท้าชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE กับโรลลินส์ ซึ่งโรลลินส์ได้ปฏิเสธ ในรอว์สัปดาห์ต่อมา (27 กรกฎาคม 2015) ออธอริตีได้จัดแมตช์ให้ซีนาป้องกันแชมป์ยูเอสกับโรลลินส์ ระหว่างแมตช์โรลลินส์ได้เข่าใส่หน้าของซีนาจนดั้งจมูกหัก แต่ซีนาก็ป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ ในรอว์ (3 สิงหาคม 2015) โรลลินส์ได้ออกมาท้าซีนา ในการรวมแชมป์ยูเอส และแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE ผู้ชนะจะได้ครองแชมป์ทั้งสองเส้น ในศึก ซัมเมอร์สแลม (2015) สุดท้ายโรลลินส์เป็นฝ่ายชนะและได้ทั้งแชมป์ยูเอส และแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE มาครอบครอง จากการช่วยเหลือของจอน สจ๊วต ในรอว์คืนต่อมา (24 สิงหาคม 2015) มีการจัดงานเปิดตัวรูปปั้นทองแดงของโรลลินส์ แต่พอเปิดผ้าคลุมออกมากลายเป็นสติงอยู่ด้านใน สติงจัดการอัดโรลลินส์แล้วก็หยิบแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE มาเชยชมเป็นการท้าทายโรลลินส์ ก่อนจะมีการประกาศว่า โรลลินส์จะต้องป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE กับสติง ในศึก ไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2015) ในรอว์ถัดมา (31 สิงหาคม 2015) ซีนาได้มาขอสิทธิ์รีแมตช์ชิงแชมป์ยูเอสกับโรลลินส์ ในไนท์ออฟแชมเปียนส์ ทำให้โรลลินส์มีแมตช์ต้องป้องกันแชมป์ทั้งสองเส้นในคืนเดียว ในไนท์ออฟแชมเปียนส์ โรลลินส์ได้เสียแชมป์ยูเอสให้ซีนา แต่สามารถป้องกันแชมป์โลกจากสติงได้ หลังแมตช์ เชมัส ออกมาจะใช้สิทธิ์กระเป๋ามันนีย์อินเดอะแบงก์ แต่เคนออกมาแล้วก็ Chokeslam ใส่โรลลินส์กับเชมัส ปิดฉากด้วยการจับโรลลินส์มาใส่ Tombstone โรลลินส์จะต้องป้องกันแชมป์กับเคนในศึก เฮลอินเอเซล (2015) โดยมีตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของเคนเป็นเดิมพัน และโรลลินส์ก็สามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ ทำให้เคนต้องออกจากตำแหน่งงาน
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2015 โรลลินส์ได้รับบาดเจ็บที่เข่าขวาอย่างรุนแรง ระหว่างปล้ำแมตช์คู่เอกชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE กับเคน ในเฮาส์โชว์ของ WWE ที่เมื่องดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ ทำให้ทั้งเอ็นไขว้หน้า(ACL), เอ็นข้างด้านใน(MCL) และหมอนรองกระดูกเข่าฉีกขาด จนไม่สามารถขึ้นปล้ำป้องกันแชมป์กับโรแมน เรนส์ ได้ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2015) และอาจต้องพักการปล้ำยาวนาน 6-9 เดือน จากการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นทำให้โรลลินส์จำเป็นต้องสละแชมป์ทันที โดยจะมีการปล้ำทัวร์หน้าเมนต์หาแชมป์คนใหม่ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์แทน และจบการครองแชมป์ของโรลลินส์ด้วยเวลา 221 วัน โรลลินส์ได้ปรากฏตัวในสแลมมีอะวอร์ด ปี 2015 หรือศึกรอว์ 21 ธันวาคม (เดินด้วยไม้ค้ำ) โดยเขาได้รับรางวัลซุปเปอร์สตาร์แห่งปี 2015 และประกาศว่าปี 2016 เขาจะกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิมเพื่อมาทวงคืนแชมป์ที่เขาไม่เคยเสีย
โลเปซมีเชื้อสายอาร์เมเนีย นามสกุลในชีวิตจริงของเขาโลเปซ มาจากพ่อเลี้ยงเม็กซิกันอเมริกันของเขา
ในปี 2014 โลเปซและอดีตคู่แทกทีมของเขา Marek Brave ได้ก่อตั้งสถาบันการศึกษามวยปล้ำอาชีพ The Black & The Brave Wrestling Academy, โรงเรียนตั้งอยู่ใน Moline, รัฐอิลลินอยส์
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2015, ภาพเปลือยของนักมวยปล้ำ NXT ซาห์รา ชไรเบอร์ (Zahra Schreiber) ได้ถูกโพสต์ไปยังบัญชีโซเชียลมีเดียของเขา และไปปรากฏอยู่บนบหน้าประวัติของเขาบนเว็บไซต์ WWE.COM ด้วย เนื่องจากทาง WWE ตั้งค่าเชื่อมต่อกับทวิตเตอร์ไว้ เพียงไม่นานหลังจากนั้นบัญชีทวิตเตอร์ของ Leighla Schultz คู่หมั้นของเขา ก็ได้โพสภาพโต้ตอบภาพดังกล่าวไปพร้อมข้อความว่า "Zaharah?" โดยภาพที่คู่หมั้นของเขาโพสนั้นมี 2 ภาพคู่กัน ซึ่งทั้งสองคือภาพ selfie(ถ่ายเอง)เปลือยของเขา ต่อมาเขาได้โพสข้อความลงใน twitter เพื่อขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น "ผมอยากจะขอโทษแฟน WWE ทุกคน ครอบครัวของผม และเพื่อนๆของผมด้วย จากการที่ภาพถ่ายส่วนตัวของผมถูกเผยแพร่ออกไปโดยปราศจากการรู้เห็นของผม"